ให้ลูกอ่านอะไรดี : เด็ก 0-3 ปี หนังสือสัมผัส Touch and Feel

หลังจากครั้งก่อนแนะนำ หนังสือผ้า ไปแล้ว ครั้งนี้จะมาแนะนำหนังสือสัมผัส (Touch and feel book) จะเป็นหนังสือที่มีพื้นผิวสัมผัสที่หลากหลาย บางเล่มเป็น concept book ที่กล่าวถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ บางเล่มสอนคำศัพท์เป็นหมวดหมู่ และบางเล่มเป็นเรื่องเล่า แต่จุดเด่นสำคัญของหนังสือสัมผัสอยู่ที่ลูกเล่นที่ในแต่ละหน้าที่จะมีพื้นที่ให้เด็กๆ ได้สัมผัสกับพื้นผิวต่างๆ 

หนังสือสัมผัส “นุ่มนิ่มจอมซน”

หนังสือสัมผัส ให้เด็กๆ เรียนรู้การสัมผัสที่หลากหลาย

ข้อดีประการแรกของหนังสือสัมผัส คือ การตระหนักรู้ในด้านสัมผัส (sensory awareness) เด็กๆ ได้รู้จักสัมผัสที่หลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น ความหยาบและความละเอียดของทราย ความลื่นของเมล็ดถั่วที่ต่างจากความลื่นของผ้า ความสากของผ้าสักหลาด ฯลฯ ในสมองของเขาก็จะเก็บรวบรวมคลังสัมผัสเอาไว้ เหมือนอย่างที่ช่างตัดเสื้อก็มีหนังสือผ้าต่างๆ เก็บสะสมไว้ใช้นั่นเอง เมื่อเด็กๆ ต้องการก็เลือกหยิบข้อมูลในสมองเหล่านั้นมาใช้ได้ และระหว่างนั้นเมื่อเจอของคล้ายๆ กัน หรือสัมผัสที่คล้ายแต่ไม่เหมือนกัน อย่างเนื้อผ้าที่สากกับเนื้อผ้าที่ลื่น เด็กจะเรียนรู้เรื่องการเปรียบเทียบขึ้น 

และแน่นอน เมื่อเกิดกระบวนการเรียนรู้เกิดขึ้น ทุก 1 วินาที เซลล์สมองของเด็กจะมีการเชื่อมต่อสูงถึง 700 เซลล์ ข้อมูลต่างๆ จะวิ่งไปตามเซลล์ประสาทและจุดประสานประสาท ยิ่งได้รับข้อมูลบ่อยๆ ซ้ำๆ จุดที่ผ่านก็จะยิ่งแข็งแรง สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของ รศ.พญ.ทิพวรรณ หรรษคุณาชัย กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการเด็ก ที่กล่าวถึงเซลล์สมองจะเชื่อมต่อได้ดีและแตกแขนงออกไปเมื่อได้รับการกระจากสิ่งแวดล้อมผ่านการเรียนรู้และฝึกใช้ประสาทสัมผัส เนื่องจากเซลล์ประสาทและจุดประสานประสาทได้เชื่อมต่อกัน

หลายๆ คนอาจสงสัย แล้วถ้าเราไม่ให้เซลล์ประสาททำงานจะเกิดอะไรขึ้น เซลล์ประสาทที่ชุดข้อมูลไม่ได้วิ่งไปก็จะถูกทำลายทิ้ง โดยบทความของ Healthline กล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วพบว่าหลังจาก 10 ปีขึ้นไป จุดประสานประสาท (synapse) ที่คอยเชื่อมโยงการส่งข้อมูลจะถูกกำจัดทิ้ง เพราะสมองประมวลว่า เส้นทางนี้ไม่เกิดประโยชน์ ไม่มีข้อมูลผ่านมาเลย จุดประสานประสาทที่ถูกกำจัดทิ้งอาจมีถึง 50% เลยทีเดียว 

ดังนั้นถึงแม้ช่วง 3 ปีแรกจะเป็นช่วงที่จุดประสานประสาทมีการเพิ่มจำนวนมากที่สุด แต่ก็มีช่วงเวลาที่ถูกทำลายเช่นกัน การเรียนรู้ในช่วง 10 ปีแรกจึงถือว่าสำคัญมากๆ ค่ะ 

หนังสือสัมผัส “นุ่มนิ่มจอมซน”

หนังสือสัมผัสช่วยให้เด็กกล้าเรียนรู้

หนังสือช่วยในเรื่องของความกล้าที่จะเรียนรู้ เมื่อเด็กๆ ได้สัมผัส เขาจะรู้สึกว่า การเอามือไปจับสิ่งต่างๆ มันก็ดูไม่ได้น่ากลัวอะไร จับทั้งทราย หญ้า ขนแกะ แม้กระทั่งขนสิงโต หรือจะเป็นเกล็ดของมังกร ก็ผ่านมือเขามาหมดแล้ว ถึงแม้เราก็รู้กันดีว่ามันคืออะไรก็ตาม แต่สำหรับเด็กๆ เขาจะพบว่า โลกภายนอกไม่ได้น่ากลัวอะไร ทำให้เวลาออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกเขากล้าจับและสัมผัส อาจถือว่าหนังสือสัมผัสเป็นหนังสือที่ช่วยเปิดโลกและกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นในการเรียนรู้โลกกว้างของเด็กๆ ก็ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นเวลาเด็กๆ เล่นอะไรข้างนอกก็ต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่นะคะ ยิ่งเล่นก็ยิ่งเยอะประสบการณ์ และยิ่งมีประสบการณ์ เซลล์ประสาทและจุดประสานประสาทก็จะยิ่งแข็งแรงเพราะได้ทำงานนั่นเอง

หนังสือสัมผัสเหมาะแก่การบำบัด

หนังสือสัมผัสยังเป็นหนังสือที่นักกิจกรรมบำบัดมักจะใช้กับเด็กที่มีความต้องการพิเศษในการเรียนรู้เรื่องสัมผัสต่างๆ เด็กที่มีความต้องการพิเศษบางคนจะมีความอ่อนไหวทางด้านการสัมผัส ไม่ยอมสัมผัส ไม่ยอมจับอะไรง่ายๆ ดังนั้นหนังสือสัมผัสจึงมีบทบาทที่ช่วยค่อยๆ ให้เด็กๆ ได้ลองสัมผัสและลองจับนั่นเอง เมื่อเขาเรียนรู้ว่าสัมผัสเหล่านั้นเป็นสัมผัสที่เขารู้สึกโอเคกับมัน เขาจะค่อยๆ เริ่มสัมผัสสิ่งอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น

หนังสือสัมผัส “นุ่มนิ่มจอมซน”

“นุ่มนิ่มจอมซน” หนังสือสัมผัส ให้เด็กๆ ได้รู้สึก จับใจ จดจำ

จุดเด่นของหนังสือสัมผัสของสำนักพิมพ์ห้องเรียนเรื่อง “นุ่มนิ่มจอมซน” อยู่ที่หนังสือเป็นแนวเรื่องเล่า เด็กๆ จะสนุกและตื่นเต้นไปกับเนื้อเรื่อง ว่าแม่สัตว์ชนิดต่างๆ จะหาลูกของตนเจอไหม ระหว่างทางก็จะพบสัตว์มากมาย ที่เด็กๆ จะได้ลองจับ เด็กจะเชื่อมโยงสัมผัสกับสัตว์แต่ละชนิด การจดจำคำของเด็กก็จะเป็นการจดจำพร้อมประสบการณ์ และในระหว่างที่เขาสัมผัส 

นอกจากนี้ระหว่างสัมผัสและฟังเสียงจากคนเล่า สมองของเด็กจะพัฒนาเชิงภาษา ควบคู่กับกระบวนการคิด ความสามารถเชิงมิติสัมพันธ์ และอารมณ์ ซึ่งเกิดจากการถามหรืออธิบายเพิ่มเติมระหว่างที่เด็กสัมผัสในแต่ละหน้า เด็กจะรับรู้เรื่องความรู้สึกของตนเองระหว่างสัมผัสและเชื่อมโยงกับวัสดุ รวมทั้งการเรียนรู้เรื่องการโต้ตอบจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนเล่าและเด็ก 

และด้วยเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับแม่ลูก ก็มักทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างตัวตนของเด็กกับครอบครัว บทบาทและความสำคัญของครอบครัวมีผลอย่างมากต่อเด็กค่ะ เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่พวกเขารู้สึกและเชื่อมโยงได้ เรื่องที่มีความรักของครอบครัวที่จบอย่างมีความสุขจะทำให้เด็กเกิดความปลอดภัยและมั่นคงทางอารมณ์ หากสังเกตดีๆ เราจะเห็นความรักของครอบครัวผ่านครอบครัวสัตว์ในแต่ละหน้า ดังนั้นอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้วก็กอดเขาสักหน่อยนะคะ เพราะเขาก็ได้อยู่กับครอบครัวและคนที่เขารักเหมือนกัน

สามารถสั่งซื้อหนังสือสัมผัสของสำนักพิมพ์ห้องเรียนได้ที่ นุ่มนิ่มจอมซน Touch & Feel

อ่านเพิ่มเติมได้ที่

https://www.thairath.co.th/content/527798?fbclid=IwAR2F6UXHLNdXyy0_tnJ6y2N1oTp7ZCeKPOktAenBa6osy7Kzw7j6N_a39fo

https://usborne.com/browse-books/features/why-babies-need-books/

https://www.healthline.com/health/synaptic-pruning#timeline

https://www.dana.org/article/qa-neurotransmission-the-synapse/

https://www.brainandlifecenter.com/neurogenesis-brainplasticity-brain

https://www.parentingforbrain.com/sensory-activities-importance-sensory-play/
https://folsomlakemontessori.com/blog/why-do-babies-like-touch-and-feel-books/
Facebook
Twitter
Email