ถ้าให้ลองยกตัวอย่างชื่อที่โด่งดังเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลกของภูตผีปีศาจและอสุรกาย “แดร็กคูลา” กับ “แฟรงเกนสไตน์” น่าจะเป็นอันดับต้นๆ ที่ถูกนึกถึง ด้วยทั้งสองมีภาพลักษณ์ที่โดดเด่น มีเรื่องราวอันตื่นเต้นและน่าสยดสยอง เป็นที่จดจำของผู้คนสืบเนื่องมายาวนาน
รู้หรือไม่ว่าอสุรกายทั้งสองตนนี้ ล้วนมีที่มาจากหนังสือนวนิยายอมตะที่อยู่คู่โลกมานับร้อยปี
แดร็กคูลา – แวมไพร์กระหายเลือด
เคานต์แดร็กคูลา แวมไพร์หรือผีดูดเลือดผู้เป็นอมตะ เป็นชายรูปหน้าผอม ดวงตาสีแดงมีแววโหดเหี้ยม ฟันเล็กแหลมคม สวมชุดคลุมยาวสีดำทั้งตัว และปรากฏตัวเฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น เป็นตัวละครจากวรรณกรรมเรื่อง “แดร็กคูลา (Dracula)” ซึ่งเป็นนวนิยายที่มีชื่อเสียงที่สุดของ แบรม สโตเกอร์ (Bram Stoker) นักเขียนชาวไอริช ตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ. 1897 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากความเชื่อเรื่องผีดิบดูดเลือดของชาวยุโรปตะวันออก
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นด้วย โจนาธาน ฮาร์เกอร์ เดินทางไปยังทรานซิลเวเนีย ประเทศโรมาเนีย เพื่อขายที่ดินในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ให้แก่เคานต์แดร็กคูลา เขาถูกจองจำไว้ในปราสาทของท่านเคานต์ และล่วงรู้ความลับอันน่าพรั่นพรึงว่าแดร็กคูลาคือแวมไพร์หรือผีดูดเลือด ที่กำลังวางแผนจะย้ายไปล่าเหยื่อในลอนดอน
แดร็กคูลาเดินทางไปลอนดอนด้วยเรือซึ่งบรรทุกโลงศพไปเป็นจำนวนมาก เขาดูดเลือดหญิงสาวคนหนึ่งจนเสียชีวิตและกลายเป็นผีดิบดูดเลือด เป็นจุดเริ่มต้นให้ ดร. แวน เฮลซิง กับพรรคพวกต้องร่วมมือกันหาหนทางปลดปล่อยเหยื่อหลายรายที่กลายเป็นแวมไพร์ และปราบแดร็กคูลาให้จงได้
มูลเหตุความเชื่อเรื่องแวมไพร์
ในสมัยที่วิทยาการยังไม่เจริญก้าวหน้า เมื่อเกิดโรคระบาดมีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากจึงถูกเชื่อมโยงเข้ากับสิ่งลี้ลับ มีข้อสันนิษฐานว่าต้นกำเนิดของความเชื่อเรื่องแวมไพร์ น่าจะมาจากผู้ป่วยเป็นโรคพอร์ไฟเรีย เกิดจากความผิดปกติของสารชนิดหนึ่งในเม็ดเลือดแดง ทำให้ผิวของผู้ป่วยบวมแดงและเกิดแผลพุพองเมื่อถูกแสงแดด จึงออกจากอาคารได้เพียงตอนกลางคืนเท่านั้น และเหงือกยังร่นขึ้นไปทำให้ฟันดูยาวขึ้นเหมือนเขี้ยวแหลมอีกด้วย
แฟรงเกนสไตน์ – อสุรกายจากซากศพ
อสุรกายแฟรงเกนสไตน์ มีที่มาจากวรรณกรรมเรื่อง “แฟรงเกนสไตน์ (Frankenstein) ผลงานของ แมรี เชลลีย์ (Mary Shelley) นักเขียนชาวอังกฤษ ตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1818
โดยชื่อ “แฟรงเกนสไตน์” นั้น ไม่ใช่ชื่อของอสุรกาย แต่เป็นนามสกุลของ “วิคเตอร์ แฟรงเกนสไตน์” ผู้ซึ่งได้ทดลองชุบชีวิตขึ้นจากซากศพชิ้นส่วนต่างๆ ที่นำมาต่อกัน แต่เมื่อเจ้าอสุรกายมีชีวิตขึ้นมา วิคเตอร์กลับตื่นกลัวจนวิ่งหนีไป
อสุรกายจึงต้องใช้ชีวิตต่อมาอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ไม่อาจเปิดเผยตัวให้ผู้ใดพบเห็น เพราะรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ มันต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและโหยหาความรักจากครอบครัว นานวันเข้าจึงสั่งสมเป็นความแค้น มันตามหาวิคเตอร์จนเจอ ขู่ให้เขาสร้างภรรยาให้มาเป็นคู่ชีวิต แต่เมื่อวิคเตอร์ผิดสัญญา เรื่องจึงดำเนินไปสู่โศกนาฏกรรม
แฟรงเกนสไตน์ฉบับภาพยนตร์
ภาพของแฟรงเกนสไตน์ที่เป็นที่จดจำ เป็นชายร่างสูงใหญ่ผิวสีเขียว หน้าผากสูงทรงสี่เหลี่ยม และมีน็อตโผล่ออกมาจากคอ มาจากภาพยนตร์เรื่อง Frankenstein ซึ่งออกฉายในปี ค.ศ. 1931 และยังเป็นที่มาของการชุบชีวิตอสุรกายด้วยไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งในนวนิยายต้นฉบับไม่ได้ลงรายละเอียดว่าวิคเตอร์ชุบชีวิตอสุรกายได้อย่างไร