บทความก่อนหน้าได้พูดถึงสำนวน ‘สิบแปดมงกุฎ’ หรือเหล่าเสนาวานรของกองทัพพระรามทั้งสิบแปดตนไปแล้ว เช่นนั้นจะไม่กล่าวถึง ‘หนุมาน’ วานรทหารเอกคู่ใจของพระรามคงไม่ได้
เรื่องราวความเก่งกล้าสามารถของทหารเอกตนนี้ได้รับการขนานนามไปทั่วทั้งแผ่นดิน ชนิดที่ว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก แต่ทว่าความเก่งกาจมากมายที่หนุมานมั่นใจเหลือเกินนั้นก็ทำให้มีเรื่องพลาดพลั้งจนกำเนิดสำนวน ‘เหาะเกินลงกา’ ขึ้นมา
ที่มาของสำนวนนี้เริ่มจากพระรามเป็นห่วงนางสีดาที่ถูกทศกัณฐ์จับอยู่ในกรุงลงกา จึงอยากส่งแหวนและสไบของนางสีดาเพื่อยืนยันแสดงตน โดยให้หนุมาน องคต และชมพูพานไปสอดแนมดูลาดเลาที่กรุงลงกาเสียก่อน
หนุมานนำทัพไปถึงเขาเหมติรัน พบกับพญานกสัมพาทีที่ถูกสาปให้ไม่มีขน และให้อยู่แต่ในถ้ำ รอจนกว่าทหารของพระรามโห่ร้องให้สามครั้งจึงจะพ้นคำสาป หนุมานทราบดังนั้นจึงให้พลหมู่วานรร้องโห่ทลายคำสาปให้แก่สัมพาที จากนั้นสัมพาทีก็พาพญาลิงทั้งสามขึ้นหลังบินไปดูที่ตั้งกรุงลงกา เมื่อจดจำจนขึ้นใจ จึงบอกให้สัมพาทีบินกลับไปยังเขาเหมติรัน
หนุมานอาสาเหาะข้ามมหาสมุทรมุ่งหน้าไปกรุงลงกาเพียงผู้เดียว แต่กว่าจะไปถึงกรุงลงกาหนุมานมีหลายด่านที่ต้องผจญ ไม่ว่าจะเป็นนางผีเสื้อสมุทร พระนารทฤาษี และยักษ์เสื้อเมือง
เมื่อมาถึงกรุงลงกาหนุมานก็แปลงกายเป็นลิงป่า กลางดึกลักลอบเข้าพบนางสีดาเพื่อถวายแหวนและสไบ พร้อมคืนกลับร่างเดิม ทูลว่าตนเป็นทหารของพระรามมาแจ้งข่าว
เมื่อเสร็จภารกิจหนุมานเกิดคิดอยากลองฤทธิ์ศัตรู จึงแปลงกายเป็นลิงป่าก่อกวนไปทั่วทั้งกรุงลงกา และใช้กลอุบายเผากรุงลงกาได้สำเร็จ เมื่อพระรามทราบว่าทหารเอกของตนเผากรุงลงกาก็โกรธหนัก กล่าวว่าหนุมานได้ทำเกินคำสั่ง เกรงว่าทศกัณฐ์แค้นเคืองแล้วจะฆ่านางสีดา เมื่อหนุมานทูลว่าตนแปลงกายเป็นลิงป่าพเนจร ไม่มีใครรู้ว่าตนเป็นทหารของพระราม พระรามจึงได้คลายความโกรธลง
จากเหตุการณ์คิดอยากลองฤทธิ์ศัตรูและความห้าวหาญมั่นใจในอิทธิฤทธิ์ตน นำไปสู่การเผากรุงลงกาอันเป็นการทำเกินคำสั่งของพระราม สำนวน ‘เหาะเกินลงกา’ จึงได้ถือกำเนิดขึ้นด้วยเหตุฉะนี้
เรื่องราวที่นำมาเล่านี้เป็นเพียงเรื่องย่อของสำนวน ‘เหาะเกินลงกา’ เท่านั้น ยังมีเหตุการณ์ระทึกใจอีกหลายเหตุการณ์ที่หนุมานฝ่าฟันเพื่อไปสู่กรุงลงกา หรือติดตามเรื่องราวการต่อสู้ของพระรามกับทศกัณฐ์แบบเต็มเรื่องใน รามเกียรติ์
อ้างอิง